กลยุทธ์ที่สองซึ่งคิดค้นโดย ดร.ไมเคิล เอเดลสัน (Micheal E.Edleson) อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยแนวคิดดังกล่าวต่อยอดจากวิธีการลงทุนในแบบ DCA แต่สำหรับ VA จะแตกต่างในด้าน “การควบคุมมูลค่าสุทธิพอร์ตการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ” หรือให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ DCA คือ “ต้นทาง” ส่วน VA คือ “ปลายทาง” หรือมูลค่าของพอร์ตการลงทุน
ส่วนวิธีการลงทุนในแบบของ Value Averaging นักลงทุนจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายของตนเองว่าจะเพิ่มมูลค่าของพอร์ตเท่าไหร่ให้เท่าๆ กันในแต่ละงวด เช่น งวดแรกตั้งเป้าที่ 1,000 งวดต่อไปเพิ่มเป็น 2,000 บาท งวดถัดมาเป็น 3,000 หรือการเพิ่มเป็นทุก 1,000 บาทอย่างนี้เรื่อยๆ ด้วยวิธีดังกล่าว VA เงินของเราะเพิ่มเข้าไปในพอร์ตที่แตกต่างกันชัดเจนแต่ละงวด
การลงทุนหากมองกันจริงๆ VA เป็นการเพิ่มเงินหรือใช้เงินที่สูงขึ้นเพื่อที่จะปูทางไปลงทุนภาวะตลาดเอื้ออำนวยนั้นก็คือสินทรัพย์มีราคาต่ำลง ส่วนกรณีที่ตลาดขยับตัวขึ้นนั้นก็คือสินทรัพย์มีมูลสูงขึ้น นักลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนตามกระแสมากจนเกินไปเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง ดังนั้นการลงทุนแบบ VA จะช่วยให้เรารับรู้ว่าเมื่อใดที่ตลาดเข้าช่วงชาขึ้น จะทำให้เรารับรู้ถึงกำไรโดยอัตโนมัติ ส่งผลถึงระยะยาวที่มูลค่าพอร์ตจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าที่เรากำหนดเอาไว้แต่แรก