เป็นการลงทุนที่จำเป็นต้องจัดการวางแผนการลงทุนที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว เนื่องจากการลงทุนในรูปแบบของ Portfolio Rebalancing เหมาะสำหรับผู้มีเงินก้อน โดยหลักๆ จะเป็นด้านการปรับพอร์ตการลงทุน ทำให้จะแตกต่างจาก DCA และ VA อย่างมาก ผู้ลงทุนไม่ได้คาดหวังให้พอร์ตโตขึ้นตามระยะเวลาและก็ไม่ได้มีการเพิ่มเงินทุกงวดอีกด้วย แต่ผู้ลงทุนจำเป็นต้องกำหนดมูลค่าของพอร์ตที่เราต้องการให้คงไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาที่พอร์ตลงทุนลดลงหรือจะเพิ่มขึ้นจากจุดที่เรากำหนดเป้าหมายไว้ผู้ลงทุนจึงจะซื้อเข้าหรือขายออก หรือเรียกว่า “การปรับสมดุล – Rebalance” โดยผู้ลงทุนอาจจะปรับสมดุลที่ 5% , 10% , 20% จากมูลค่าของจำนวนเงินที่ลงทุนซึ่งแล้วแต่ผู้ลงทุนจะกำหนด เพื่อที่ผู้ลงทุนจะได้ไม่จำเป็นต้องปรับสมดุลทุกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเบี่ยงเบนของมูลค่าการลงทุน
เมื่อถึงเวลาที่เงินสดของเราเยอะขึ้น หรือมีแหล่งเงินทุนที่พร้อมสำหรับการลงทุน ให้เราเริ่มกำหนดเงินทุนต้นใหม่หรือปรับเปลี่ยนเปอร์เซ็นการเบี่ยงเบนใหม่ตามความเหมาะสมของเงินลงทุนใหม่ ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถนำไปประยุกต์กับการลงทุนในแบบของหุ้นรายตัวหรือกองทุนรวมได้อีกด้วย
ดังนั้นที่กล่าวมาทั้งหมดจะทำให้ผู้อ่านจะรู้ได้เลยว่า Portfolio Rebalancing เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการลงทุนที่มีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากการทำกำไรจะขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นตลอดเวลา เช่น เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนจึงมีโอกาสสร้างกำไรได้จากการขายเพื่อทำกำไร หรือเข้าลักษณะ “ซื้อถูกขายแพง” นั่นเอง แต่สำหรับการลงทุนแบบ Portfolio Rebalancing มีเงื่อนไขสำคัญก็คือ ผู้ลงทุนจำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้สำหรับใส่เงินเพิ่มเมื่อใดที่หุ้นของผู้ลงทุนตก